ข่าวอับเดตล่าสุดสำหรับสาวกเชลซี
(Credit: The Independent)
ทีมชาติสเปนสามารถกลับมายิงประตูได้อย่างร้อนแรงอีกครั้งในเกมที่เจอกับทีมชาติสโลวาเกีย
ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ถึง 5-0 และยังเป็นการยิงมากที่สุดนับตั้งแต่เคยลงเล่นในรายการฟุตบอลยูโรเลยทีเดียว
โดยก่อนหน้านี้ทางขุนพลทีมกระทิงดุทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในเกมที่เจอกับทีมชาติสวีเดนและทีมชาติโปแลนด์จนเก็บคะแนนได้น้อยในสองเกมแรก
แล้วยังยิงประตูได้เพียงหนึ่งลูกเท่านั้น แต่ทว่าทาง Luis Enrique กลับทิ้งท้ายรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างสวยงามแล้วยังเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มอีเช่นกัน
(Credit: Sportskeeda)
นับตั้งแต่ทีมชาติสเปนเคยลงเล่นในรายการฟุตบอลยูโรมาถึง 43 เกมนั้น
พวกเขาไม่เคยยิงประตูได้ถึงห้าประตูมาก่อนเลย จนกระทั่งในเกมที่เจอกับทีมชาติสโลวาเกียจากแมตช์สุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มนั่นเอง
โดยจุดเริ่มต้นได้มาจากการทำประตูตัวเองของ Martin Dubravka ที่ปัดบอลเข้าตัวเองอย่างน่าเหลือเชื่อ
ก่อนที่กองหลังที่เพิ่งย้ายสัญชาติมาอย่าง Aymeric Laporte จะใส่สกอร์เป็นลูกที่สองก่อนจะจบครึ่งแรกทำให้เกมของพวกเขาสบายมากขึ้น
จนกระทั่งในครึ่งหลังที่ทาง Pablo Sarabia ยิงประตูได้ในนาทีที่ 56 ตามด้วย Ferran Torres ตัวสำรองที่ยิงได้ไวที่สุดในรอบ 17 ปีของสเปน
แล้วปิดท้ายจากการทำเข้าประตูตัวเองของ Juraj Kucka กองกลางของโสลวาเกียนั่นเอง
(Credit: Today In 24 English)
หลังจากที่ทีมชาติสเปนเอาชนะในเกมสุดท้ายไปได้ 5-0 นั้นก็ทำให้พวกเขามีคะแนนมากเพียงพอจะเข้ารอบไปเป็นอันดับสองของตารางกลุ่มอี
โดยจ่าฝูงที่อยู่เหนือพวกเขาอย่างทีมชาติสวีเดนสามารถเก็บคะแนนได้ทั้งหมดที่ 7 แต้ม
จากการเอาชนะคู่แข่งได้ถึงสองนัดที่เจอกับสโลวาเกียในสกอร์ 1-0 และทีมชาติโปแลนด์ในเกมสุดท้ายอย่างสุดมันส์ที่ 3-2
ซึ่งประตูชัยก็มาถึงในนาทีที่ 94 จาก Viktor Claesson นั่นเอง
ส่วนเกมที่พวกเขาได้คะแนนเดียวก็เป็นการเจอกับลูกทีมของ Luis Enrique ที่จบไปแบบไร้สกอร์ในเกมที่สอง
ทีมชาติสเปนสามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของรายการฟุตบอลยูโร 2020 และต้องเข้าไปเจอกับทีมชาติโครเอเชีย
ซึ่งเป็นที่สองของกลุ่มดี
โดยทั้งสองทีมถือว่ามีผลงานที่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก
แม้ว่าการเข้ารอบของทีมตราหมากรุกจะดูดีกว่าเหล่านักเตะจากแดนกระทิงดุที่ดูไม่มีเกมรุกที่ดีเท่าไหร่นัก
ซึ่งจุดด่างพรอยที่ Alvaro Morata ก็ยังยิงจุดโทษไม่เข้าในเกมที่ถล่มสโลวาเกียอีกด้วย