ข่าวอับเดตล่าสุดสำหรับสาวกเชลซี
(Credit: CGTN)
ถึง Raheem Sterling จะสามารถยิงประตูให้กับทีมชาติอังกฤษอยู่หลายครั้งจนพาให้ทีมสามารถเข้าสู่
รอบรองชนะเลิศได้ แต่ทว่าทางเหล่านักวิจารณ์ก็ยังมองว่า เขามีข้อผิดพลาดอยู่จนทำให้เจ้าตัวจะต้องออกมาตัดพ้อ
เลยทีเดียวว่า ตัวเองเจอกับคำวิจารณ์ที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย รวมถึงสามประตูของเขากับทีมก็ช่วยให้สิงโตคำราม
ได้ลงเล่นในสนามเวมบลีย์ที่ต้องเจอกับทีมชาติเดนมาร์กในรอบรองสุดท้าย
ก่อนที่ผู้ชนะจะได้เจอกับทีมชาติอิตาลีที่เอาชนะสเปนไปได้ พร้อมกับตีตั๋วนัดชิงชนะเลิศที่นามเดียวกันไปแล้ว
(Credit: SportsNet)
Raheem Sterling เองต้องเจอกับคำวิจารณ์อยู่หลายครั้งนับตั้งแต่ช่วงก่อนจบฤดูกาลกับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้
ก่อนที่ในทีมชาติอังกฤษ เขาจะยังตกเป็นเป้าอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าจะลงเล่นให้กับประเทศมาถึง 66 เกมเข้าไปแล้ว
โดยเจ้าตัวก็ยอมรับว่า กรลงเล่นในตอนนี้มันไม่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย เมื่อย้อนไปในอดีตนั้น เขาก็ถูกต่อว่าเสมอ
ทั้งที่ร่างกายจะยังไม่ได้สัมผัสบอลในสนามเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเด็กคนหนึ่ง
แต่สำหรับชีวิตและเรื่องราวในสนามแล้ว นักเตะก็ต้องท้าทายตัวเองอยู่เสมอ
และยังต้องพยายามให้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ตัวรุกรายนี้ทำอยู่เสมอ
(Credit: Sky News)
เมื่อเทียบกับรายการยูโรเมื่อห้าปีก่อนนั้น Raheem Sterling ถือว่า พัฒนาฝีเท้ามไกลมากแล้ว
หลังจากที่รายการใหญ่ในปี 2016 ที่เจ้าตัวจะไม่ได้สามารถยิงประตุได้เลยสักครั้ง
ก่อนที่ทีมชาติอังกฤษจะตกเป็นเป้าของนักวิจารณ์อย่างหนัก จนกระทั่งในรายการประจำปีนี้
เขาก็พยายามแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมา แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างไม่ขาดสายเช่นเคย
รวมถึงดาวยิงจากทีมเรือใบสีฟ้าก็ยอมรับว่า คำพูดของนักวิจารณ์หรืออดีตผู้เล่นสักคน
ก็อาจส่งผลถึงการเล่นของเขาได้ แม้ว่ามันอาจฟังดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ก็ตาม
ซึ่งประสบการณ์ตรงที่ Sterling ลงเล่นมาเป็นเวลานานก็สอนให้เขาต้องมองข้ามคำพูดเหล่านั้นไปเสียดีกว่า
ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ Raheem Sterling แค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วทางดาวยิงคนนี้ก็มีส่วนกับประตูของทีมชาติอังกฤษ
อย่างมากในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งทำให้ทีมสิงโตคำรามได้มาลงเล่นในเกมรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย หากพวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติเดนมาร์กไปได้ ผู้ชนะก็ได้ไปเจอกับทีมชาติอิตาลีที่สนามเวมบลีย์นั่นเอง